กระทรวงการท่องเที่ยวและโบราณคดีอิรักแถลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊กเมื่อ 5 มี.ค.ว่า กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ใช้ยานยนต์ทหารขนาดใหญ่เหยียบย่ำทำลายโบราณสถานสมัยแอสซีเรีย ยุคศตวรรษที่ 13 ก่อนคริสตกาล ที่เมืองนิมรัด ริมแม่น้ำไทกริส ใกล้เมืองโมซูลทางภาคเหนืออิรักซึ่งไอเอสยึดครอง แต่ยังไม่ทราบความเสียหาย
เมืองนิมรัดเป็นหนึ่งใน “อัญมณี” ยุคแอสซีเรีย สัปดาห์ที่แล้วไอเอสก็เผยแพร่วีดิโอใช้ค้อนและเครื่องขุดเจาะหินทุบทำลายโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์เมืองโมซูล ซึ่งนักโบราณคดีชี้ว่าเป็นการทำลายมรดกทางวัฒนธรรมของโลกที่ร้ายแรงเทียบเท่ากลุ่มตาลีบันระเบิดทำลายพระพุทธรูปบามิยันในอัฟกานิสถานในปี 2544
ด้าน รมว.ต่างประเทศซาอุดีอาระเบียเรียกร้องให้กองทัพพันธมิตร นำโดยสหรัฐฯ ส่งทหารราบเข้าไปทำสงครามภาคพื้นดินกับกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย หลังโจมตีทางอากาศมานานหลายเดือน ขณะที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยว่า มีผู้ลี้ภัยออกจากเมืองติกริตแล้วกว่า 28,000 คน ขณะที่กองทัพอิรักรุกยึดเมืองนี้คืนจากไอเอส
ส่วนกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรง “อัล-นุสรา” ในซีเรีย ซึ่งเป็นสาขาของกลุ่มอัล-เคดา ยืนยันว่าผู้นำของตน 4 คน รวมทั้งอาบู โฮมาม อัล-ชามิ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของกองทัพรัฐบาลซีเรียที่เมืองอิดลิบทางภาคเหนือซีเรีย ด้านคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นลงมติประณามการใช้อาวุธเคมี “คลอรีน” ในซีเรีย.
http://www.thairath.co.th
0 comments:
Post a Comment