คราบหินปูนเป็นอันตรายต่อฟันอย่างรุนแรง นอกจากการไปพบหมอฟันเป็นประจำแล้ว การแปรงฟันที่ถูกวิธีก็ช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบหินปูนด้วย
ทิปเล็กๆไม่กี่ข้อนี้ จะทำให้คุณแน่ใจได้ว่าการแปรงฟันของคุณขจัดหินปูนออกไปแล้ว
1. ใช้แปรงสีฟันและยาสีฟันที่ถูกต้อง : ถึงแม้ว่าในตลาดจะมีแปรงสีฟันสารพัดชนิดให้เลือก แต่สมาคมทันตกรรมของสหรัฐได้บอกออกมาแล้วว่า "แปรงสีฟันที่ขนแปรงทำจากไนลอน ปลายมน อ่อนนุ่ม" เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ขนแปรงที่แข็งเกินไปจะทำให้ฟันสึกหรอ นอกจากการเลือกแปรงที่ถูกต้องแล้ว ก็ต้องเลือกยาสีฟันที่มีฟลูโอไลด์ เพราะฟลูโอไลด์ทำให้ฟันแข็งแรงและป้องกันฟันผุ
2. แปรงสีฟันไฟฟ้าไม่ได้ดีไปกว่าแปรงธรรมดา แต่มีคนค้นพบว่า ถ้าใช้แปรงไฟฟ้าพวกเขาจะมีวินัยในการแปรงฟันมากขึ้น แปรงฟันนานขึ้น เพราะฉะนั้นถ้าเป็นอย่างนี้ การลงทุนซื้อแปรงสีฟันไฟฟ้าสักอันก็เป็นอะไรที่ไม่เลว ทันตแพทย์แนะนำว่าควรเปลี่ยนแปลงสีฟันทุก 3-4 เดือน เพราะเมื่อใช้นานๆไป ความสามารถของแปรงในการทำความสะอาดก็จะลดลงเรื่อยๆ
3. วิธีการใช้แปรงสีฟันที่ถูกต้อง : เวลาแปรงฟัน ให้แปรงสีฟันทำมุมกับเหงือก 45 องศา แล้วแปรงออกจากเหงือก แปรงขึ้นลงไปมา หรือแปรงเป็นวงกลม อย่าใช้แรงเยอะเกินไปเพราะจะทำให้ฟันสึก
4. ต้องเน้นฟันแต่ละซี่ : การแปรงฟันทุกครั้งจ้องแน่ใจว่าแปรงครบทุกซี่ ไม่มีซี่ไหนถูกละเลยไป อย่าลืมว่านอกจากการแปรงด้านนอกแล้ว ด้านในก็สำคัญไม่แพ้กัน สิ่งที่ต้องระวังเป็นพิเศษเลยก็คืออย่าลืมแปลงในส่วนด้านในที่แปรงถึงยาก 2 นาทีเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับใช้ในการแปรงฟัน
5. อย่าลืมแปรงลิ้น : เนื่องจากเศษอาหารและจุลินทรีย์มักจะเกาะติดอยู่ตามลิ้น เพราะงั้นถึงต้องแปรงลิ้นให้สะอาด ซึ่งยังช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น
วิธีการบ้านๆต่อไปนี้ สามารถช่วยลดการเกิดคราบหินปูนได้เช่นเดียวกัน :
1. ใช้เบคกิ้งโซดา : นี่เป็นวิธีขจัดคราบหินปูนที่บ้านแบบธรรมชาติที่สุด เทผงเบคกิ้งโซดาลงในถ้วยเล็กน้อย ทำแปรงสีฟันให้ชื้น เอาขนแปลงจุ่มลงในเบคกิ้งโซดา แล้วแปรงฟันด้วยวิธีการแปลงแบบปกติ คุณสามารถผสมเกลือเล็กน้อยลงในเบคกิ้งโซดาได้ด้วย
2. กินแอปเปิ้ลหรือผลไม้ตระกูลแตง : กินแอปเปิ้ลหรือผลไม้ตระกูลแตงทั้งหลายหลังกินข้าวทันที สามรถช่วยทำความสะอาดฟันได้อย่างธรรมชาติ ป้องกันการเกิดคราบหินปูนบนฟัน และยังช่วยให้เหงือกแข็งแรง ไม่มีเลือดออกตามไรฟัน
3. ถูฟันด้วยเปลือกผลไม้ตระกูลส้ม : ผลไม่ตระกูลส้มเช่น ส้มเช้ง ส้มเขียวหวาน มีวิตามินซีมาก สามารถช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์บนผิวฟัน
4. เคี้ยวงา เคี้ยวงาหนึ่งช้อน แต่ไม่ต้องกลืนลงไป หลังจากนั้นใช้แปรงสีฟันแห้งๆแปรงฟัน โดยใช้งาแทนยาสีฟัน งาจะช่วยขจัดคราบหินปูนและในขณะเดียวกันก็จะช่วยขัดฟันไปด้วย
5. เอามะเขือเทศหรือสตรอเบอรี่ถูฟัน มะเขือเทศกับสตรอเบอรี่ มีคุณสมบัติเหมือนผลไม้ตระกูลส้ม ซึ่งมีวิตามินซี ผ่าครึ่งมัน แล้วเอามาถูบริเวณผิวฟัน รอ 5 นาที แล้วค่อยบ้วนปากด้วยน้ำโซดา
แต่ถ้าเมื่อยามเสร็จสิ้นภารกิจแห่งความสำราญในการกิน ชิม หรือ ดี่มแล้ว หลายๆ คน ก็ไปทำภารกิจอื่นๆ ต่อ ไปโดยไม่ใส่ใจเรื่องในช่องปากเลย หรือถ้าดีประมาณหนึ่ง อาจจะทำได้แค่บ้วนปากให้พอสะอาดเรียบร้อยแบบคร่าวๆ จนแทบจะไม่ใส่ใจเลย โดยหารู้ไม่ว่า เศษอาหารที่คุณ คุณ และคุณ ได้ทานไปนั้น กำลังจะรวมตัวเป็น “หินปูน” อย่างเงียบๆ
หินปูนนี้ ดูเผินๆ แทบจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ถ้าหากปล่อยปละละเลยไปไม่สนใจ บางทีสุขภาพฟันของคุณอาจจะมีผลกระทบอย่างไม่ตั้งใจ แล้วเผลอๆ ถ้าเวลายิ้มแล้วมีหินปูนเกาะด้วยแล้ว อาจจะดูไม่สวยงาม เผลอๆ โดนตอกกลับมาด้วยซ้ำ แต่อย่าเพิ่งเสียใจไป เรามีความรู้เกี่ยวกับ ‘หินปูน’ มาให้ทราบกัน และ วิธีที่จะช่วยให้หินปูน แยกจากฟันของเราออกไปเสียที
หินปูน คือ...
คราบหินปูน คือคราบแบคทีเรียที่สะสมจากน้ำลายรวมกับเศษอาหารและบวกกับเชื้อแบททีเรียจนแข็งตามตัวฟัน ซึ่งเชื้อตัวนี้ จะสามารถย่อยอาหารและหลั่งกรดออกมาทำลายเนื้อฟันทีละนิด แถมสามารถจับตัวที่ร่องเหงือกได้อีกด้วย ซึ่งหากปล่อยสะสมไว้นานวัน ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อเนื้อเยื่อเหงือก ซึ่งจะนำไปสู่โรคที่อันตรายต่อช่องปากอย่างฟันผุ และ โรคเหงือก
นอกจากนี้ หินปูน ยังส่งผลให้ความสวยงามในการยิ้ม เพราะ หินปูนจะดูดซับคราบสกปรกได้ง่ายกว่า อาจจะทำให้ยิ้มไม่สวยงามอีกด้วย
สาเหตุปัจจัยเสี่ยงของการเกิดหินปูน
แน่นอนมีปัจจัยต่างๆ มากมาย ที่ทำให้เกิด เช่น การสูบบุหรี่, นอนกัดฟัน,การทานอาหารโดยเฉพาะที่มีน้ำตาล, ปากแห้ง,โรคประจำตัวที่มีอยู่ เช่น เบาหวาน, ฟันสบกันไม่ดี, มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกาย หรือการใช้ยาประเภท ยาลดความดันโลหิต เป็นต้น
คราบหินปูนกับช่วงเวลา
ภายใน 24 ชั่วโมงหินปูนจะก่อให้เกิดคราบในช่องปากก่อน จากนั้น เมื่อครบ 48 ชั่วโมง จะค่อยๆ แพร่เชื้อโรค และทยอยปล่อยสารทำลายฟัน หากเราปล่อยปละละเลยในการใส่ใจดูแล ในที่สุด
วิธีแก้ปัญหาเจ้าหินปูน
สำหรับการแก้ปัญหานั้น เราก็สามารถจัดการได้โดยไม่ต้องพึ่งคนรอบข้าง ได้แก่ แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงนุ่ม ปลายมนไม่แหลม ส่วนการแปรงให้เน้นตรงรอยต่อระหว่างเหงือกและฟัน ส่วนยาสีฟันที่ใช้ ควรมีส่วนผสมของฟลูออไรต์ประกอบอยู่
ซึงถ้าจะให้ดี ควรใช่ไหมขัดฟันช่วยได้เช่นเดียวกัน แต่ใช้ได้แค่วันละครั้งเท่านั้น, ไม่ควรทานอาหารบ่อย หลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมหวาน ซึ่ง ผักและผลไม้ น่าจะเป็นอาหารว่างที่ดีทีสุดสำหรับสุขภาพปากและฟัน และควรตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน หากไม่อยากมีปัญหา
ที่มา: http://www.bigza.com/news-177790
0 comments:
Post a Comment