สนช.ส่งมอบความเห็น ร่าง รธน.เสนอ กมธ.ยกร่างฯ24ประเด็น ห้ามแก้ รธน.ใหม่ 5 ปี ให้ ส.ว.มาจากสรรหาทั้งหมด พร้อมให้ ส.ว.ที่คสช.ยุบไปไม่ขาดคุณสมบัติลงสมัคร รอบหน้า
วันที่ 28 พ.ค. 58 นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนวทาง และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ส่งมอบความเห็น ร่างรัฐธรรมนูญ 24 ประเด็นต่อคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยมี พลเอกยอดยุทธ บุญญาธิการ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นผู้รับมอบ
โดย นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนวทาง และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า สนช.มีความเห็นให้ตัดคำ ว่า "พลเมือง" ออกจากร่างรัฐธรรมนูญ เพราะมีลักษณะในเชิงอุดมคติ และให้ใช้คำว่า "บุคคล" แทน ตามรัฐธรรมนูญปี 2540 และ 2550 เพื่อความชัดเจน และไม่ให้เกิดความสับสน พร้อมทั้งเห็นด้วย กับที่มาของ นายกรัฐมนตรีคนนอก โดยอาศัยคะแนนเสียงของ ส.ส. 2 ใน 3 แต่ให้ระบุความชัดเจนมากขึ้น เช่น ในกรณีที่ ห้วงเวลานั้นไม่มีสภาผู้แทนราษฎร และ นายกรัฐมนตรีรักษาการ ที่เกิดเหตุการณ์ทำให้ไม่สามารถดำรงตำแหน่งรักษาการได้ สนช.ยังเสนอให้ตัดมาตรา 181 และ 182 ออก ในการให้อำนาจนายกรัฐมนตรียุบสภา ในกรณีที่สภาผู้แทนราษฎรลงมติไว้วางใจน้อยกว่ากึ่งหนึ่งได้ และในกรณีที่นายกรัฐมนตรีเสนอร่างพระราชบัญญัติใดต่อสภา หากสมาชิกสภาผู้แทนไม่ได้เข้าชื่อร่วมกันขอยื่นญัตติขอเปิดอภิปราย เพื่อลงมติ ภายใน 48 ชั่วโมง ให้ถือว่า ร่างพระราชบัญญัตินั้น ผ่านการพิจารณาและความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร
นอกจากนี้ เสนอให้ตัด กลุ่มการเมือง ออกจากร่างรัฐธรรมนูญ ที่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ และเสนอให้สมาชิกวุฒิสภามาจากการสรรหาทั้งหมด แต่ให้เพิ่มขั้นตอน หรือเงื่อนไขการสรรหาจากกลุ่มอาชีพให้ชัดเจน เพิ่มคณะกรรมการสรรหาให้มากขึ้น และควรให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานองค์กรแต่ละวิชาชีพเข้ามาด้วย และตัดอำนาจ ส.ว.ในการเสนอร่างพระราชบัญญัติโดยสมาชิกวุฒิสภาออก ตัดอำนาจ ส.ว.ในการถอดถอนบุคคลที่วุฒิสภาไม่ได้เป็นผู้แต่งตั้ง หรือ ให้ความเห็นชอบ
สำหรับผู้บริหารท้องถิ่นดำรงตำแหน่งนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ให้มีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี และดำรงตำแหน่งห้ามเกิน 2 วาระ ติดต่อกัน พร้อมทั้งเสนอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้คงอยู่ตามเดิม มีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง และดูแลการเลือกตั้งตามเดิม
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการเสนอให้อำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐระดับสูง เป็นอำนาจของวุฒิสภาไม่ควรให้รัฐสภาถอดถอน โดยกำหนดให้ ส.ว.ถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งได้ เฉพาะบุคคลที่ ส.ว.ให้ความเห็นชอบให้เข้าดำรงตำแหน่งเท่านั้น ส่วนบุคคลอื่นๆ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. จัดสำนวนยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อพิจาณาถอดถอน
นายสมชาย กล่าวว่า ในส่วนของบทเฉพาะกาลเสนอให้ ควรบัญญัติเงื่อนไขห้ามไม่ให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ในระยะเวลา 5 ปี ภายหลังจากที่มีการประกาศใช้บังคับแล้ว โดยนำแนวคิดจากบทเฉพาะของรัฐธรรมนูญ ปี 2540 มาใช้ และเสนอเห็นควรบัญญัติให้ ส.ว.ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2557 และยังไม่ครบวาระ แต่ต้องพ้นจากตำแหน่ง ตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เท่านั้น ที่สามารถเข้าสู่ตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาได้ โดยไม่ถือว่า มีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
http://www.thairath.co.th
0 comments:
Post a Comment