หนุ่มสุดงง !! โดนไล่ยิง แทบเอาชีวิตไม่รอด พอถึงโรงพยาบาลทำให้เขาน้ำตาแทบไหล

หนุ่ม ใหญ่รับแม่กับลูกสาว เดินทางกลับบ้าน ระหว่างทาง ถูกคนร้ายซิ่งกระบะประกบยิงรถพรุน แม่สาหัส เสียชีวิตระหว่างทาง ตัวเองแทบเอาชีวิตไม่รอด จนท.ไล่ล่าคนร้าย
วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม 2558 เวลา 15:23 น.
เมื่อ วันที่ 25 ก.ค. พ.ต.ต.วิรัตน์ ยอดเสาร์ พนักงานสอบสวน สภ.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันที่บริเวณปากทางซอยต้นลำดวนถนนสุขุมวิท กม.237 ฝั่งขาออกเมืองระยอง หมู่ 6 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรุดไปตรวจสอบ ในที่เกิดเหตุ พบเศษกระจกแตกละเอียดเต็มพื้นถนน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นางบุญมี อุปลับ อายุ 62 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะด้านซ้าย มีกระสุนฝังใน และนายสามารถ อุปลับ อายุ 35 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนปืนยิงแฉลบเป็นแผลอยู่ที่บริเวณแก้ม ต่อมานางบุญมี ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบพบรถยนต์กระบะโต โยต้าไทเกอร์ สีบอร์นทองทะเบียน บพ.79 ระยอง ของนางบุญมี อยู่ในสภาพกระจกประตูข้าง ถูกอาวุธปืนยิงแตกกระจายทั้งสองข้างและภายในรถพบคราบเลือดจำนวนมาก จอดอยู่ในโรงพยาบาลระยองข้างห้องฉุกเฉิน





สอบ สวน นายรัตนพันธ์ อุปลับ อายุ 33 ปี พนักงานขับรถในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง เล่าว่า นายสามารถ พี่ชายทำงานอยู่แผนกแทงค์ฟาร์มน้ำมัน ของบริษัทไออาร์พีซี ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวมา พร้อมกับนางบุญมี ผู้เป็นมารดา และลูกสาวของตนเอง เพื่อมารับตนเองที่บริเวณแยกหนองบอน ถนนสายบายพาส 36 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เพื่อเดินทางกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบอรนซ์ ทะเบียน กจ.5872 ระยอง แซงมาประกบที่ด้านซ้าย จากนั้นชายที่นั่งอยู่หลังกระบะได้ใช้อาวุธปืน ไม่ทราบขนาดยิงใส่เข้ามาทางประตูกระจกด้านซ้าย 2 นัด ถูกที่ศีรษะของนางบุญมี และถูกบริเวณแก้มของนายสามารถ หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปทาง อ.แกลง และนายสามารถรีบบึ่งขับรถพามารดาไปส่งที่โรงพยาบาลดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย รองผกก.สส.สภ.เพ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายสามารถ คนขับ ทราบว่าทำงานอยู่บริษัทคลังน้ำมัน ไม่เคยมีศัตรู หรือ คู่อริกับใคร ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุการขับขี่รถยนต์ปาดหน้ากัน หรือ เปิดไฟสูงใส่หน้ารถกัน ซึ่งอาจทำให้คนร้ายเกิดอาการโมโหและใช้อาวุธปืนไล่ยิง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เช็คข้อมูลทะเบียนรถ ที่นายสามารถแจ้งมา ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นรถใคร ซึ่งในขณะนี้ได้ให้ชุดสอบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามไหล่ทาง ทั้งหมด เพื่อที่จะหารูปรถยนต์คนร้ายที่ใช้ก่อเหตุมาสืบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป..





0 comments:

Post a Comment