ฟังแล้วทึ่ง! สุดทน เจ๊คนดัง แวดวงบิวตี้ บังคับอัดถั่วดำทุกคืน!! แล้วแก้แค้นเธอแบบนี้?



 หนุ่มเมืองชุมแพ ขอนแก่น เคยติดคุกคดีลักทรัพย์ และแยกทางกับภรรยา ทั้งที่มีลูกด้วยกัน 1 คน ก่อนจะมาเจอหนุ่มใหญ่แต่ใจเป็นหญิง ชาวตาคลี นครสวรรค์ มีอาชีพขายเครื่องสำอาง ส่งตามร้านบิวตี้ทั่วภาคอีสาน ที่พบกันโดยบังเอิญที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น ตกลงพาไปอยู่ด้วยให้ช่วยขายเครื่องสำอาง แต่ทนไม่ได้ที่ต้องร่วมรักทางประตูหลังแทบทุกวัน แถมยังห้ามมองสาวๆ บางวันไม่ให้ออกไปกินข้าวต้องนั่งๆนอนๆในรีสอร์ต

 สุดทนวางแผนหนีตอนที่คู่ขาให้ไปซื้อข้าวกินในตลาดเลยขับรถกระบะหลบหนีไป เร่ขายเครื่องสำอางที่ติดรถไปจำนวนกว่า 3 แสนบาท แต่ขายได้เพียงไม่กี่พัน ตัดสินใจถอดหลังคาออกขาย และเอากระบะไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า เจ้าของเห็นผิดสังเกตแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบจับกุมตัวไว้ได้ สารภาพ ต้องการเป็นอิสระแต่ถูกบังคับให้อยู่ด้วย แม้แต่มองผู้หญิงยังห้าม

 เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่หน้าสภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.ชัยพงษ์ ทรงพลนภจร รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี , พ.ต.ท.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ต.อำนาจ ทาก้อม สวป. , พ.ต.ต.ฉลาม ภูเมืองขวา สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.อาทิตย์ จันทา สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.ศัลย์ พินิจวัฒนา สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.อรรคพล ยี่เกาะ รอง สว.สส.ฯ ,ร.ต.อ.คมกริช ศรีหริ่ง,ร.ต.ท.บรรจง พาโคตร

 ร.ต.ท. วิเชียร คล้อยดี , ร.ต.ท.เวนิช ประเสริฐ , ด.ต.วิจัย ศรีแก้วน้ำใส , จ.ส.ต.จีรวิชรช์ ทำทอง และชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์นายจ้าง ผู้ต้องหา คือ นายทีระชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี อยู่ ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ตามหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ.- 210/2558 ลงวันที่ 22 ก.ค.58 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างในเวลากลางคืนโดยเจตนา”

 พร้อมของกลาง 1.รถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ตค-726 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน 2.เครื่องสำอาง แป้ง ครีม ลิปสติก ชามะม่วง วิตามินไข่มุกยี่ห้อดัง อาหารเสริม สมุนไพรบำรุงผิว ครีมขัดผิวขาว ครีมทารักแร้สมุนไพร เซรั่มหอยทาก อุปกรณ์แต่งหน้า เสริมความงาม รวมกว่าพันรายการ จำนวน 30 ลัง ตุ๊กตาสิงห์จีน สำหรับตั้งหน้าร้านเสริมฮวงจุ้ย 1 คู่ และเครื่องเสียงจอทีวีติดรถยนต์ 1 ชุด รวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาท เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 พ.ต.อ.ชัยพงษ์ กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากนายธงชัย หรือ ทรงชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี อยู่ ต.ลาดทิพรส อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ มีอาชีพเป็นเซลล์ขายเครื่องสำอาง ตามร้านเสริมความงามทั่วภาคอีสาน ว่า ได้ถูกนายทีระชัย ลูกจ้างที่เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันระหว่างขายเครื่องสำอาง ได้ขโมยเอารถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน ตค- 726 กรุงเทพมหานคร พร้อมเครื่องสำอางจำนวนมาก มูลค่ากว่า 3 แสนบาทไป หลังจากมีปากเสียงกันที่บริเวณ ที่พักรีสอร์ต หมู่ 3 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี

 พ.ต.ท. ชาญณรงค์ กล่าวด้วยว่า หลังจากสอบถามผู้เสียหายเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการติดตามคนร้าย เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียหายเพิ่งจะรู้จักกับผู้ต้องหาเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ที่งานศาลหลักเมืองขอนแก่น และชักชวนไปอยู่กินแบบชายรักชายและทำงานด้วย โดยผู้เสียหาย คนในวงการเรียกกันว่า เจ๊ธง มิร่า ตำแหน่ง Sale Representative บริษัทแห่งหนึ่งใน กรุงเทพฯ โดยจะเป็นตัวแทนเครื่องสำอาง อาหารเสริมความงาม ยี่ห้อดัง

 จะทำหน้าที่ขับรถตระเวนไปขายเครื่องสำอางตามร้านบิวตี้ ขายเครื่องสำอางในตัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วภาคอีสาน ส่วนผู้ต้องหามีหน้าที่ยกของส่งให้ลูกค้า และต่อมาสืบทราบว่าผู้ต้องหานำรถกระบะที่ขโมยไปไปเร่ขายเครื่องสำอางแถว อ.วังสะพุง ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย และแถว จ.ขอนแก่น แต่ไม่ค่อยมีคนกล้าซื้อ เพราะผู้ต้องหาไม่มีความรู้เรื่องเครื่องสำอาง

 พ.ต.ท.ชาญณรงค์ กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหาได้นำหลังคารถ และถอดเครื่องเสียงรถยนต์ไปขายบริเวณร้านรับซื้อขายของริมทางแถว จ.มหาสารคาม และไปเสนอขายจำนำรถยนต์กระบะกับร้านรับซื้อของเก่าที่ จ.มหาสารคาม จึงได้ประสานงานไปยัง พ.ต.ต.ไกรทอง ชัยสิงห์ สว.สส.สภ.เมืองมหาสารคาม , ร.ต.อ.สุริยันต์ ราชพันแสน และชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรฯ ร่วมออกสืบสวนหาตัว กระทั่งพบตัวผู้ต้องหาพร้อมยึดคืนได้รถยนต์กระบะเครื่องสำอาง ที่เหลืออยู่และนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดี

 นาย ทีระชัย ให้การรับสารภาพว่า เดิมมีอาชีพเป็นช่างเชื่อมเหล็ก เคยถูกจับคดีลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ติดคุกนาน 1 ปี พ้นโทษออกมาได้ไม่ถึงปี ก่อนหน้านี้อยู่กินกับภรรยาที่บ้านห้วยส้มใต้ ต.ผานกเค้า อ.ภูกระดึง จ.เลย มีลูกชายด้วยกัน 1 คน ตอนนี้อายุได้ 10 ขวบ แต่แยกทางกับภรรยามาหลายปีแล้ว จากนั้นก็ออกเร่รับจ้างไปเรื่อยๆ

 จนเมื่อประมาณช่วงต้นปีที่ผ่านมาหลังจากพ้นโทษ ได้ไปดูหนังที่งานศาลหลักเมืองขอนแก่น ได้ไปเจอกับนายทรงชัย ที่ไปไหว้ศาลหลักเมือง จึงชักชวนไปขายเครื่องสำอางด้วยกัน โดยคืนนั้นนายทรงชัย ชวนไปนอนค้างที่โรงแรม จึงรู้ว่าเป็นพวกไม้ป่าเดียวกัน ต่อมานายทรงชัยโทรศัพท์มาตามให้ไปช่วยงานด้วย จึงตัดสินใจไปอยู่ด้วย โดยนายทรงชัย จะเร่ขายเครื่องสำอางไปตามร้านจำหน่ายพวกบิวตี้ ต่างๆ ทั่วภาคอีสาน และจะพักตามโรงแรม รีสอร์ต

 นายทีระชัย ให้การต่ออีกว่า พออยู่กันไปนานๆ ก็ชักเริ่มเบื่อ เพราะต้องหลับนอนทางประตูหลังแทบทุกคืน และยังห้ามแอบมองผู้หญิง ยิ่งพนักงานขายเครื่องสำอางตามร้านมีแต่คนสวยๆ นายทรงชัย จะออกอาการหึงหวงทันที และเมื่อกลับที่พักจะไม่ยอมให้ออกไปไหน บางวันทนหิวข้าวทั้งคืน จนกระทั่งมีวันหนึ่ง ขณะพักหลับนอนกันในรีสอร์ต ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี ทนไม่ได้หิวข้าวมากนายทรงชัย ให้ขับรถออกไปซื้อข้าวกินในตัวเมือง เลยฉวยโอกาสขับรถหลบหนีไป เพื่อจะเอาเครื่องสำอางและรถไปขายแก้แค้นที่ถูกบังคับให้อยู่กินด้วย

 ผู้ สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายธงชัย หรือ เจ๊ธง มาชี้ผู้ต้องหายืนยันที่บริเวณแถลงข่าว แต่นายธงชัย ขอไม่เปิดเผยตัวเอง เนื่องจากเพราะอายที่จะตอบคำถามเรื่องไม้ป่าเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวนายทีระชัย ส่งมอบให้พนักงานสอบ สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ที่มา.http://www.bigza.com/news-175906 

0 comments:

Post a Comment