(คลิปสุดสลด) ไฟไหม้ตึก หญิงสาวติดอยู่ชั้น4 ทนร้อนเปลวเพลิงไม่ไหว จึงตัดสินใจทำแบบนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ช็อคไปตามๆกัน!!!

 เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 24 ก.ค. ร.ต.ท.นนท์ ทองแพง พงส.สภ.สำโรงเหนือ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ เลขที่ 420/776 ม.5 ซอยหมู่บ้านทิพวัล ถ.เทพารักษ์ ต.เทพารักษ์  อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงรายงาน พ.ต.อ.นพดล สุคนธวิท ผกก.สภ.สำโรงเหนือ และประสานรถดับเพลิงกว่า 10 คัน รุดไปตรวจสอบ

 ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นครึ่ง ปลูกติดกัน 2 คูหา บริเวณชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายเสื้อผ้า 1 คูหา และ ร้านรับทำประกันภัยรถยนต์ ชื่อ บริษัท สหมงคลประกันภัย จำกัด อีก 1 คูหา บริเวณตัวอาคารพบเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง และบริเวณหน้าระเบียงชั้น 4 พบหญิงสาวติดอยู่ พร้อมร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ และตะเกียกตะกายเพื่อหนีเอาตัวรอด เจ้าหน้าที่จึงพยายามขึ้นไปช่วยเหลือ พร้อมกับได้ประสานรถกระเช้าจากเทศบาลสำโรงเหนือ เพื่อขึ้นไปรับตัวหญิงสาวคนดังกล่าวลงมา

 แต่ระหว่างรอรถกระเช้าอยู่นั้น ไม่กี่อึดใจ หญิงสาวคนดังกล่าวไม่สามารถทนความร้อนจากเปลวเพลิงได้ จึงตัดสินใจกระโดดหนีตายลงมาด้านล่าง ท่ามกลางความตกตะลึง ของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนร่างจะร่วงลงมากระแทกกับหลังคากันสาดชั้นสอง และทะลุลงมากระแทก พื้นถนนอาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการและเสียชีวิตในเวลาต่อมา


นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้พักอาศัยอยู่ภายในกระโดดออกไปทางด้านหลังอาคารได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ถูกหามส่งโรงพยาบาลสมุทรปราการไปก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบชื่อของหญิงสาวที่กระโดดลงมาเสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย

 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดน้ำอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง จึงสามารถถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นชุดผจญเพลิงได้เข้าไปตรวจสอบภายในตัวอาคาร และบริเวณดาดฟ้าพบผู้เสียชีวิต เป็นชายอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายรามณรงค์ โคกสูงเนิน อายุประมาณ 18 ปี จึงมอบศพให้มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ ส่งชันสูตรต่อไป




พ.ต.อ.นพดล กล่าวว่า อาคารดังกล่าวมี นางสุธาดา โชคศิริกุลชัย อายุ 50 ปี เป็นเจ้าของ ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นเพลิงมาจากบริเวณชั้นลอย ของร้านตัดเสื้อ ก่อนจะลุกลามไปชั้นต่างๆ และร้านขายประกัน ซึ่งมีคนนอนพักอยู่ ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งจะได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง และติดตามเจ้าของมาสอบสวนต่อไป



ที่มา. http://www.bigza.com/news-175945

0 comments:

Post a Comment