เปิดใจ! สาวบริการย่านรัชดา บอกความจริงบางอย่าง ที่จะทำให้ความคิดคุณเปลี่ยนไป

ถ้าถามว่ามีไหมที่ถูกบังคับให้ทำ ทุกวันนี้คงไม่มีแล้ว ทุกคนที่ทำล้วนสมัครใจมาทำเพราะว่าเงินมันเยอะใครๆก็อยากได้ ขั้นตอนการเข้าสู่วงการก็ไม่ยาก ถามจากคนรอบข้างบ้าง หรือหาจากอินเตอร์เน็ตก็มีกันดาดเดือนดูร้านไหนดังคนเยอะถ้าเขาไม่รับก็หาที่ใหม่บางทีเพื่อนที่ทำเหมือนกันก็แนะนำมาบ้าง


พอเข้าไปทำก็จะมีการแบ่งระดับชัดเจน เริ่มจาก เด็กใหม่เข้าสู่วงการก็จะมีทั้งแบบสมัครใจ และแบบครั้งแรกเพื่อแลกกับเงินก้อน เคยเห็นเด็กสุดก็ 12-13 ปี

ขั้นที่สอง คือ พนักงาน อาบ อบ นวด ที่ชินชากับการมีเรื่องอย่างว่ากันคนแปลกหน้า หรือกลุ่มเด็กนั่งดริงค์ที่ผันตัวมาทำเพื่อหารายได้เพิ่ม

ขั้นที่สาม คือ ทำงานจนรู้ตื้นลึกหนาบางหมดแล้ว และอายุเริ่มมากก็จะผันตัวมาเป็นผู้ดูแลสาวๆตามสถานบริการต่างๆ คอยเชียร์แขก

นอกจากนี่กล่าวมาแล้ว ยังมีกลุ่มนักศึกษาบังหน้า แต่ว่าทำงานหลักที่เรียกกันว่า sideline ซึ่งกลุ่มนี้ที่เป็นนักศึกษาจริงๆแทบจะไม่มี หรือมีน้อยมาก ส่วนมากก็คนที่ทำอาชีพนี้อยู่แล้ว ไปลงทะเบียนเรียน ใส่ชุดแอบอ้าง เพื่ออัพค่าตัว และเพื่อให้ลูกค้าสนใจ สงสาร บางทีอาจส่งตังค์ให้เรียนด้วย ค่าเทอมค่าห้องพัก แต่พอถึงเวลาก็เรียนบ้างไม่เรียนบ้างเพื่อไม่ให้ถูกสงสัย


ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติเพราะพวกเขารู้ดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องนี้ ถึงขั้นมีคำเอ่ยมาว่า สยามเมืองเซ็กซ์ มาเมืองไทยถ้าไม่ลองก็เหมือนมาไม่ถึง ซึ่งแขกที่สาวๆค่อนข้างจะชอบ ก็คือ คนญี่ปุ่น เพราะเงินเยอะ แต่คนไทยก็ยังมีบ้าง

สถานบริการจะมีการตรวจเลือดถึงที่ เดือนละ 3 ครั้งเป็นอย่างน้อยซึ่งเราก็จะรู้ดีว่าต้องตรวจวันไหน เพระถ้าไม่ตรวจจะไม่ได้รับเงินเดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการตรวจเราออกเองทั้งหมด(หักจากเงินเดือน) ถ้าหากว่าใครติดโรคก็จะถูกไล่ออก และสถานบริการไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาใดๆทั้งสิ้น

สาวๆทุกคนจะต้องแบ่งรายได้มาเสริมความงาม เช่น เข้าคอร์สทำหน้าใส ฉีดผิวขาว เสริมจมูก เสริมหน้าอก เป็นต้น ส่วนเรื่องอาหาร ต้องเลือกทานของดีต่อสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้คือการลงทุน เพราะลูกค้าที่เงินหนามักจะเลือกคนที่ดูดีที่สุดเท่านั้นคะ

ตัวเธอเองยังไม่มีครอบครับมีแค่พ่อแม่ที่รู้ดีอยู่แล้วว่าเธอทำงานอะไร “ตอนแรกพ่อกับแม่ก็เสียใจมาก แต่ก็พยายามพูดให้เขาเข้าใจ จนสุดท้ายเขาบอกว่า เมื่อลงทุนไปแล้ว ก็ต้องถอนทุนคืน เอากลับมาให้คุ้ม“





0 comments:

Post a Comment